เกรดไม้สักที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทเพื่อทำความเข้าใจ
ดังต่อไปนี้
1ไม้สักเก่า
เป็นไม้สักที่ถูกแปรรูปกลายมาเป็นบ้านเรือนที่ได้มีการใช้งานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
นับ10ปีเมื่อได้ผ่านลม แดด ฝน และสภาพอากาศ ทำให้เนื้อของของไม้สักแห้งมีความชื้น
อย่างเหมาะสมกับการนำมาเเปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอีกครั้ง เป็นไม้สักที่คุณภาพดีที่สุด ไม่หดตัว ลายไม้สวย มีแก่นไม้เยอะ สีน้ำตาลเข้มต้นสักจะมีขนาดใหญ่
2ไม้สักออป.
"ออป." ย่อมาจาก องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่จ.แพร่ จึงเรียกว่าไม้ออป. เป็นไม้สักในพื้นที่สวนป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้...เป็นไม้สักที่คุณภาพดีพอสมควร การหดตัวมีน้อย สีเนื้อไม้เข้มกว่าไม้ นส. แก่นไม้เยอะกว่าไม้นส. เนื่องจากปลูกในพื้นที่ภูเขา จัดว่าเป็นไม้เกรด A
3.ไม้สักนส.
"นส." ย่อมาจาก หนังสือแสดงสิทธิทำกิน (นส.3) เป็นไม้สักที่ปลูกในพื้นที่ของเอกชน/ประชาชนทั่วไป...เป็นไม้สักที่มีคุณภาพปานกลาง การหดตัวมีมากกว่าไม้ออป. สีเนื้อไม้อ่อน แก่นไม้มีน้อยกว่าไม้ออป.
เนื่องจากปลูกในสวนของชาวบ้านทั่วไป ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ไม้ประเภทนี้เยอะ...เนื่องจากราคาถูกกว่าไม้สักประเภทอื่นๆ จัดเป็นไม้เกรด B
แล้วคุณภาพล่ะจะแตกต่างกันอย่างไร.....?
ถ้าเป็นไม้เรือนเก่าคุณภาพไม่ต้องพูดถึงครับ...แต่ราคาแพงมากเพราะหายาก ส่วนไม้ออป.คุณภาพจะดีกว่าไม้นส.และมีอัตราการหดตัวน้อยกว่า ความแกร่ง(แข็ง)มีมากกว่าไม้นส. และไม้นส.ถือเป็นไม้ที่มีคุณภาพปานกลาง อัตราการหดตัวมีค่อนข้างมาก และมีความแกร่งของเนื้อไม้น้อยกว่าไม้ประเภทอื่น
ซึ่งไม้ออป.และไม้นส. จะมีการนำมาปรับปรุงคุณภาพก่อนการผลิต เฟอร์นิเจอร์
เช่น การอบ การพึ่งแดด การแช่น้ำ การย่าง เป็นต้น เพื่อป้องกันการหดตัว และการบิดงอของไม้ บางคนก็จัดประเภทไม้เป็นเกรดต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกครับ เช่น A+, A , B , B+ , C
จะคัดไม้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ ส่วนใหญ่เราใช้ไม้ออป.ครับ...เนื่องจากสีและแกนไม้เข้มสวยกว่าไม้นส.(เกรดไม้สักทัวไป) และอัตราการหดตัวมีน้อยกว่า ส่วนไม้ประเภทอื่น(ไม้เรือนเก่า,ไม้นส.) ก็ทำครับ โดยจะทำการปรับปรุงคุณภาพไม้ด้วยวิธีการอบด้วยความร้อน
ประมาณ 15-20 วัน เพื่อให้ความชื้นสัมพัทธ์ของไม้ลดลงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการหด และบิดงอ